นาฏศิลป์ไทย
นาฏศิลป์ไทยเป็นศิลปวัฒนธรรมที่แสดงถึงความเป็นไทย ที่มีมาตั้งแต่ช้านาน และได้รับอิทธิพลแบบแผนตามแนวคิดจากต่างชาติเข้ามาผสมผสาน และนำมาปรับปรุงเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย การแสดงนาฏศิลป์ไทยเป็นการแสดงที่มีความวิจิตรงดงาม ทั้งเสื้อผ้าการแต่งกายลีลาท่ารำดนตรีประกอบและบทร้อง นอกจากนี้การแสดงนาฏศิลป์ไทยยังเกิดจากการละเล่นพื้นบ้าน วิถีชีวิตของชาวไทยในแต่ละภูมิภาค
ความเป็นมาของนาฏศิลป์ไทย
นาฏศิลป์ หมายถึง ศิลปะการฟ้อนรำที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น มีความงดงาม ประณีต ให้ความบันเทิง
สามารถโน้มน้าวอารมณ์และความรู้สึกของผู้ชมให้คล้อยตาม ศิลปะประเภทนี้ต้องอาศัยการบรรเลงดนตรี และการขับร้องเข้าร่วมด้วย
เพื่อส่งเสริมให้เกิดคุณค่ายิ่งขึ้น หรือเรียกว่า ศิลปะของการร้องรำทำเพลง
สันนิษฐานว่านาฏศิลป์ไทยมีกำเนิดมาพร้อมๆกับชนชาติไทย ที่เป็นเช่นนี้เพราะนาฏศิลป์ไทยเป็นส่วน หนึ่งที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การแต่งกาย คติ และความเชื่อของคนไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้อาจสรุปได้ว่า นาฏศิลป์ไทยน่าจะมีที่มาจาก 4 แหล่ง ดังนี้
1. จากการเลียนแบบธรรมชาติ
2. จากการละเล่นของชาวบ้าน
3. จากการแสดงที่เป็นแบแผน
4. จากการรับอารยธรรมของอินเดีย
องค์ประกอบของการแสดงนาฏศิลป์และการละคร
องค์ประกอบของนาฏศิลป์
- ผู้แสดง
- ลีลาท่ารำ
- ดนตรี
- บทเพลง
- การแต่งกาย
- การแต่งหน้า
- อุปกรณ์การแสดง
องค์ประกอบของการละคร
- เรื่อง
- แนวคิด
- ตัวละคร
- บรรยากาศ
ประเภทของนาฏศิลป์ไทย
1. โขน
1. โขน
โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย เป็นการแสดงที่รวมศิลปะหลายชนิดเข้าด้วยกัน โขนถือกำเนิดมาจากการแสดงชักนาคดึกดำบรรพ์ หนังใหญ่ และกระบี่กระบอง ซึ่งเป็นการแสดงที่มีมาแต่โบราณ
2. ละคร
ละคร คือ รูปแบบการแสดงที่ดำเนินเรื่องราว เป็นศิลปะที่อาจเกิดจากการนำภาพจากจินตนาการ ประสบการณ์ หรือเรื่องราวต่างๆมาผูกเป็นเรื่อง มีเหตุการณ์เชื่อมโยงเป็นตอนๆ ตามลำดับ ใช้ผู้แสดงเป็นผู้สื่อความหมายต่อผู้ชม
3. ระบำ
ระบำ คือ ศิลปะของการร่ายรำที่มีผู้แสดงตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แสดงพร้อมกันเป็นหมู่เป็นชุด ความงามของการแสดงระบำอยู่ที่ความสอดประสานกลมกลืนกัน ด้วยความพร้อมเพรียงกัน
4. รำ
รำ หมายถึง การแสดงที่มุ่งเน้นความสวยงามในการเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นการแสดงฝีมือในการร่ายรำที่เน้นการใช้แขน มือ และท่าต่างๆ
นาฏศิลป์พื้นเมือง
นาฏศิลป์พื้นเมืองแบ่งออกเป็น 4 ภาค
1. ภาคเหนือ
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ภูมิอากาศค่อนข้างเย็นสบาย การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือนิยมใช้คำว่า '' ฟ้อน '' นำหน้าชุดการแสดง ฟ้อนหรือระบำของภาคเหนือส่วนใหญ่มีจังหวะช้า เนิบนาบ มุ่งเน้นลีลาท่าทางที่ อ่อนช้อย นุมนวล อ่อนหวาน
2. ภาคกลาง
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มมีพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลางจะมีลักษณะ อ่อนช้อยงดงาม สอดแทรกลักษณะที่สนุกสนานรื่นเริง
3. ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง ภูมิอากาศร้อนและค่อนข้างแห้งแล้ง การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคอีสานจะมี ความสนุกสนาน เร้าใจ นิยมใช้คำว่า '' เซิ้ง '' การเคลื่อนไหวมือและเท้ารวดเร็วสอดคล้องกับจังหวะดนตรี
4. ภาคใต้
มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ติดกับทะเล ฝนตกชุก ภูมิอากาศค่อนข้างชื้น การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคใต้จะมีลักษณะ การเคลื่อนไหวมือ เท้า สะโพก สอดคล้องกับจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน มีลีลาท่ารำที่อ่อนช้อย สวยงาม มีลักษณะท่ารำที่เป็นเอกลักษณ์
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา ภูมิอากาศค่อนข้างเย็นสบาย การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคเหนือนิยมใช้คำว่า '' ฟ้อน '' นำหน้าชุดการแสดง ฟ้อนหรือระบำของภาคเหนือส่วนใหญ่มีจังหวะช้า เนิบนาบ มุ่งเน้นลีลาท่าทางที่ อ่อนช้อย นุมนวล อ่อนหวาน
2. ภาคกลาง
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มมีพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคกลางจะมีลักษณะ อ่อนช้อยงดงาม สอดแทรกลักษณะที่สนุกสนานรื่นเริง
3. ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง ภูมิอากาศร้อนและค่อนข้างแห้งแล้ง การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคอีสานจะมี ความสนุกสนาน เร้าใจ นิยมใช้คำว่า '' เซิ้ง '' การเคลื่อนไหวมือและเท้ารวดเร็วสอดคล้องกับจังหวะดนตรี
มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ติดกับทะเล ฝนตกชุก ภูมิอากาศค่อนข้างชื้น การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองภาคใต้จะมีลักษณะ การเคลื่อนไหวมือ เท้า สะโพก สอดคล้องกับจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน มีลีลาท่ารำที่อ่อนช้อย สวยงาม มีลักษณะท่ารำที่เป็นเอกลักษณ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น